Localizing

พัฒนา ‘สภาวัฒนธรรม’ อย่างไร ให้ขับเคลื่อนด้วยพลังการมีส่วนร่วมและตอบโจทย์ท้องถิ่น ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.รณรงค์ จันใด’

ชวนอ่านงานวิจัย “การพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรมด้วยพลังการมีส่วนร่วม ของเครือข่ายในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553” โดย ผศ.รณรงค์ จันใด คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมจึงถือเป็นโจทย์ท้าทายในการทําให้ประชาชนเห็นความสําคัญและเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการขับเคลื่อนการดําเนินงานวัฒนธรรมในท้องถิ่นตนเองให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจึงได้จัดตั้งสภาวัฒนธรรมในแต่ละระดับ ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการขยายเครือข่ายการดําเนินงานด้านวัฒนธรรมในพื้นที่ในลักษณะกระจายอํานาจทางวัฒนธรรม และนำมาสู่การริเริ่มโครงการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรมด้วยพลังการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่ ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553   เพื่อให้ส่งเสริมการพัฒนาสภาวัฒนธรรมต้นแบบดังกล่าว ผศ.รณรงค์ จึงดำเนินการวิจัยข้างต้น โดยมีวัตถุประสงค์โดยสรุป 3 ประการ คือ  จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2 เป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายที่ 16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง เป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผศ.รณรงค์ ดำเนินการศึกษาด้วยวิธีการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพและการศึกษาเชิงปริมาณ โดยศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลผ่านการเก็บข้อมูล 3 วิธี ได้แก่ ผลการศึกษาที่สำคัญจากงานวิจัยข้างต้น ได้แก่  นอกจากนี้ ผศ.รณรงค์ ยังได้เสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนงานของสภาวัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ ดังนี้ กล่าวโดยสรุป […]

พัฒนา ‘สภาวัฒนธรรม’ อย่างไร ให้ขับเคลื่อนด้วยพลังการมีส่วนร่วมและตอบโจทย์ท้องถิ่น ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.รณรงค์ จันใด’ Read More »

สำรวจปัจจัยที่กลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นใช้เลือก ‘การท่องเที่ยวพร้อมสิทธิฉีดวัคซีน’ ผ่านงานวิจัยที่เน้นเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถาม

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศหยุดชะงักด้วยมาตรการปิดพรมแดนประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงลดน้อยลง ดังจะเห็นได้ว่าในปี 2563 โรงแรมในญี่ปุ่นล้มละลายเพิ่มขึ้นกว่า 57% ขณะที่โรงแรมในไทยถูกคาดการณ์ว่าปิดกิจการภายในสิ้นปี 2564 ไปกว่า 47% อย่างไรก็ดีมีความพยายามมองหาทางเลือกในการท่องเที่ยวแนวใหม่เพื่อโอบอุ้มและกระตุ้นกิจการการท่องเที่ยวไม่ให้ถดถอยมากจนเกินไป และหนึ่งในแนวทางที่ได้รับความสนใจไม่น้อยนั่นคือ “vaccine tourism” หรือ “การท่องเที่ยวพร้อมสิทธิฉีดวัคซีน” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศปลายทางสามารถฉีดวัคซีนได้ฟรี เนื่องจากบางประเทศมีวัคซีนเกินความต้องการใช้จึงนำวัคซีนที่เหลือมาเปลี่ยนเป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างครอบคลุมหรือได้รับวัคซีนชนิดที่ไม่ต้องการ โดยปัจจุบันการท่องเที่ยวแนวนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย และคิวบา กระนั้น เมื่อสำรวจงานวิจัยและเอกสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ผ่านระบบ Scopus พบว่ามีงานวิจัยเพียง 28 งานวิจัยเท่านั้น และเมื่อจำกัดการค้นหาระบุเอกสารที่คำว่า “vaccine tourism” เป็นคำหลัก พบว่ามีงานวิจัยเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น ได้แก่ งานวิจัย “Decoding the global trend of “vaccine tourism” through public sentiments and emotions:

สำรวจปัจจัยที่กลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นใช้เลือก ‘การท่องเที่ยวพร้อมสิทธิฉีดวัคซีน’ ผ่านงานวิจัยที่เน้นเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถาม Read More »

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน ทำไมต้องคำนึงถึง ‘ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย’ และความร่วมมือ ‘ภาครัฐ-เอกชน’ สำคัญอย่างไร ?

จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันส่งผลให้ ‘เมือง’ ในหลายประเทศเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ระดับทางเศรษฐกิจขยับใหญ่ขึ้น ขณะที่อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานก็ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรเมือง กระนั้นความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้กลับเป็นความท้าทายที่ทิ้งโจทย์สำคัญอย่าง “ความยั่งยืน” และ “ครอบคลุม” ให้ต้องคิดหาทางไปให้ถึง เพื่อป้องกันผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นทั้งต่อมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ อาทิ ความแออัด มลพิษทางอากาศ และความยากจน  เพื่อค้นคว้าหาแนวทางที่ตอบโจทย์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน รศ. ดร.ภาวิณี เอี่ยมตระกูล  จิราวรรณ คล้ายลี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ดร.ไอศูรย์ เรืองรัตนอัมพร สำนักวิชา     วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จึงได้ดำเนินงานวิจัย “Participatory Planning Approach Towards Smart Sustainable City Development” ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และคณะสถาปัตยกรรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  วัตถุประสงค์สำคัญของงานวิจัยข้างต้น คือ การค้นหาแนวทางที่เหมาะสมในการสร้างเวทีความเข้าใจของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืนโดยการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการที่มีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐและภาคเอกชนกว่า 200 คน และเลือกจังหวัดปทุมธานีเป็นกรณีศึกษา ซึ่งหวังให้เป็นต้นแบบในการจัดทำนโยบายการพัฒนาเมืองแก่พื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทย

การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน ทำไมต้องคำนึงถึง ‘ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย’ และความร่วมมือ ‘ภาครัฐ-เอกชน’ สำคัญอย่างไร ? Read More »

Funding Opportunities I แนะนำทุนวิจัยที่น่าสนใจด้านการขับเคลื่อนการนำ SDGs ไปปฏิบัติในพื้นที่

สำหรับสัปดาห์นี้ขอแนะนำโครงการและโอกาสของการสนับสนุนด้านเงินทุนและองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับการวิจัยระดับแนวหน้าด้านการขับเคลื่อนการนำ SDGs ไปปฏิบัติในพื้นที่ (SDG Localization Research) ดังนี้ แหล่งทุน : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ รายละเอียดทุน : เปิดรับข้อเสนอเชิงหลักการตามกรอบการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยทุนทางวัฒนธรรมผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและประชาคมทางวัฒนธรรมในพื้นที่ งบประมาณ : ไม่เกิน 2 ล้านบาท วันสิ้นสุดการเปิดรับสมัคร : 9 ธันวาคม 2022 ช่องทางการเข้าถึงเพิ่มเติม : https://nriis.go.th/NewsEventDetail.aspx?nid=11624 แหล่งทุน : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ รายละเอียด : เปิดรับข้อเสนอชุดโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาชุมชนอย่างมีส่วนร่วมโดยกลไกการพัฒนาพื้นที่ระดับตำบล ร่วมสร้าง Learning & Innovation platform ของชุมชน ที่สามารถรับและปรับใช้นวัตกรรมที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาในชุมชนได้อย่างยั่งยืน 1) สร้างนวัตกรชุมชนที่มีทักษะการรับและปรับใช้นวัตกรรมพร้อมใช้/เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบท สามารถถ่ายทอดความรู้ไปสู่ผู้อื่นได้ รวมทั้ง งสามารถเป็นแกนนำในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อหนุนให้ชุมชนมีพื้นที่และโอกาสเรียนรู้ใด้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน2) การประยุกต์ใข้นวัตกรรมพร้อมใช้/เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการแก้ไขบัญหาที่สำคัญ/เสริมและยกระดับศักยภาพที่สำคัญในพื้นที่ผ่านการสร้าง Learning and Innovation Platform3) สร้าง Learning and Innovation Platform เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดกระบวนการเรียนรู้และถ่ายทอดความรู้ให้กับชุมชนและสร้างนวัตกรชุมชนที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาขุมชนเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน

Funding Opportunities I แนะนำทุนวิจัยที่น่าสนใจด้านการขับเคลื่อนการนำ SDGs ไปปฏิบัติในพื้นที่ Read More »

สำรวจความเสี่ยงไข้เลือดออกในภาคกลางของไทย พร้อมค้นหาคำตอบความเชื่อมโยงกับ Climate Change ผ่านงานวิจัยเชิงพรรณนา 

โรคไข้เลือดออกเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์อย่างมาก เนื่องจากส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพของผู้ป่วยและระบบสุขภาพของประเทศ ซึ่งปัจจุบันพบว่าโรคไข้เลือดออกแพร่กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรายงานว่าพบผู้ป่วยไข้เลือดออกประมาณ 2.9 ล้านราย และเสียชีวิต 5,906 ต่อปี สถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้เกิดภาระทางการเงินของประเทศต่าง ๆ กว่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งเป็นการซ้ำเติมภาวะทางการเงินที่ค่อนข้างย่ำแย่อยู่เดิมแล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนเพียงภาพรวมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไม่ได้ศึกษาอย่างลงรายละเอียดเชิงพื้นที่ และเมื่อพิจารณางานวิจัยอื่น ๆ ที่ศึกษาเรื่องเดียวกันนี้ก็พบว่ายังไม่มีงานวิจัยใดที่ศึกษาการอุบัติของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ระหว่างปี 2543 – 2554 อย่างชัดเจน เพื่อศึกษาและเติมเต็มช่องทางประเด็นดังกล่าว Uma Langkulsen และ Nigel James คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ Kamol Promsakha Na Sakolnakhon กรมอุตุนิยมวิทยา จึงได้ดำเนินงานวิจัย “Climate Change and Dengue Risk in Central Region of Thailand”

สำรวจความเสี่ยงไข้เลือดออกในภาคกลางของไทย พร้อมค้นหาคำตอบความเชื่อมโยงกับ Climate Change ผ่านงานวิจัยเชิงพรรณนา  Read More »

โอนอำนาจจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดให้ อปท. มีความพร้อมแค่ไหน – ต้องหนุนเสริมอะไรเพิ่มบ้าง ? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ศ.ระพีพรรณ คำหอม และคณะ

ชวนอ่านงานวิจัย “การศึกษาผลการดำเนินงานการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดสู่ความพร้อมการถ่ายโอนภารกิจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดย ศ.ระพีพรรณ คำหอม, ผศ.ดร.ธันยา รุจิเสถียรทรัพย์ และ ผศ.รณรงค์ จันใด คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โครงการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเป็นนโยบายของรัฐบาลไทยที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 โดยตั้งต้นมาจากความพยายามที่จะแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำของสังคมไทย นับว่าเป็นหนึ่งในสวัสดิการสำหรับเด็กในครอบครัวและเป็นการจัดบริการสนับสนุนมิติเศรษฐกิจของครอบครัวเพื่อให้ครอบครัวที่อยู่ในภาวะยากลำบากทางเศรษฐกิจสามารถนำเงินอุดหนุนไปใช้ในการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพการเลี้ยงดูเด็ก เพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดี  อย่างไรก็ดีจากการติดตามและประเมินผลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปี 2559 – 2560 ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย พบว่าโครงการดังกล่าวเกิดปัญหาการเข้าไม่ถึงของกลุ่มเป้าหมายแท้จริง (exclusion error) พร้อมกับการรั่วไหลไปสู่ผู้ที่อยู่นอกกลุ่มเป้าหมาย (inclusion error) เพื่อแก้ปัญหาและช่องโหว่ที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อวันที่ 31 มกราคม คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ จึงมีมติเห็นชอบถ่ายโอนอำนาจการดำเนินโครงการแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะมีหน้าที่สำคัญ อาทิ ร่วมค้นหากลุ่มเป้าหมาย ลงทะเบียน การตรวจสอบ สิทธิ ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด  เพื่อให้การถ่ายโอนภารกิจตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริง ศ.ระพีพรรณ และคณะจึงดำเนินการวิจัยข้างต้น โดยมีเป้าประสงค์สำคัญ คือ การศึกษาความคิดเห็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อผลการดำเนินงานการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเปรียบเทียบความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อความพร้อมในการถ่ายโอนภารกิจตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 3 เป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายที่

โอนอำนาจจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดให้ อปท. มีความพร้อมแค่ไหน – ต้องหนุนเสริมอะไรเพิ่มบ้าง ? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ศ.ระพีพรรณ คำหอม และคณะ Read More »

พัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างไรให้สำเร็จ ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. รณรงค์ จันใด’

ชวนอ่านงานวิจัย “การสังเคราะห์กลไกและรูปแบบพื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชนเพื่อสังคมผู้สูงอายุ” โดย ผศ. รณรงค์ จันใด คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานวิจัยดังกล่าวตั้งต้นขึ้นจากสถานการณ์ผู้สูงอายุของไทยในปัจจุบันที่กำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย ปี 2553-2583 โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่า ในปี 2583 ประเทศไทยจะพบผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สูงถึง 20.5 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของประชากรไทยทั้งหมด สถานการณ์เช่นนี้ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง และที่สำคัญผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพและมีแนวโน้มต้องอาศัยอยู่คนเดียวสูงขึ้น  เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงพัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” (Community Laboratory) ขึ้นทดลองในพื้นที่ตำบลต้นแบบบูรณาการด้านส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัยและอนามัย สิ่งแวดล้อม จำนวน 12 พื้นที่ ได้แก่ ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา, ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย, ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์, ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา,

พัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างไรให้สำเร็จ ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. รณรงค์ จันใด’ Read More »

Funding Opportunities I แนะนำทุนวิจัยที่น่าสนใจด้านการขับเคลื่อนการนำ SDGs ไปปฏิบัติในพื้นที่

สำหรับสัปดาห์นี้ขอแนะนำโครงการและโอกาสของการสนับสนุนด้านเงินทุนและองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับการวิจัยระดับแนวหน้าด้านการขับเคลื่อนการนำ SDGs ไปปฏิบัติในพื้นที่ (SDG Localization Research) ดังนี้ แหล่งทุน : MFMC รายละเอียดทุน : MFMC สนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วนในวงกว้าง โดยข้อเสนอการวิจัยจะต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นดังต่อไปนี้ งบประมาณ : 100,000-500,000 USD วันสิ้นสุดการเปิดรับสมัคร : 2 ธันวาคม 2022 ช่องทางการเข้าถึงเพิ่มเติม : https://unifor.no/stiftelser/the-minor-foundation-for-major-challenges/?_sf_s=Minor แหล่งทุน : InsuResilience Solutions Fund รายละเอียด : ให้การสนับสนุนหน่วยงานสาธารณะ, NGOs และ บริษัทเอกชนในภาคการประกันภัย ที่ต้องการจัดทำโครงการประกันความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน (ทรัพย์สิน) การเงิน การบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน ธรรมชาติ เกษตรกรรม โดยจะต้องครอบคลุมภัยอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้: น้ำท่วม ลม พายุ ฝนตกหนัก ภัยแล้ง และคลื่นความร้อน งบประมาณ :

Funding Opportunities I แนะนำทุนวิจัยที่น่าสนใจด้านการขับเคลื่อนการนำ SDGs ไปปฏิบัติในพื้นที่ Read More »

‘ประชากรเพิ่มขึ้น การใช้ที่ดินจะเปลี่ยนไหม และอนามัยสิ่งแวดล้อมจะเสื่อมโทรมหรือไม่’ โจทย์ท้าทายของการพัฒนาเมืองยั่งยืนในอุษาคเนย์และบังกลาเทศ

ปัจจุบันเขตเมืองในประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับลักษณะการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งยังกระทบต่ออนามัยของสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลให้เกิดการใช้ที่ดินอย่างไม่เหมาะสมและขาดการวางแผน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เมืองมีการยื้อแย่งที่ดินทางการเกษตร พื้นที่ป่าไม้ และพื้นที่ชุ่มน้ำมาใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง ส่งผลให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ทางธรรมชาติ ทำให้บริการทางระบบนิเวศ (ecosystem  services) เกิดความเสื่อมโทรมและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม (environmental  sustain-ability)  ถดถอย ปัญหาข้างต้น กลายเป็นประเด็นสำคัญที่เมืองต่าง ๆ ในประเทศทั่วโลกต้องเร่งศึกษาถึงสภาพปัญหาและค้นหาแนวทางจัดการที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับงานวิจัย “Sustainable urbanization in Southeast Asia and beyond: Challenges of population growth, land use change, and environmental health” โดย Md. Arfanuzzaman องค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ประจำประเทศบังกลาเทศ และ Bharat Dahiya วิทยาลัยสหวิทยาการ

‘ประชากรเพิ่มขึ้น การใช้ที่ดินจะเปลี่ยนไหม และอนามัยสิ่งแวดล้อมจะเสื่อมโทรมหรือไม่’ โจทย์ท้าทายของการพัฒนาเมืองยั่งยืนในอุษาคเนย์และบังกลาเทศ Read More »

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มีอะไรสำเร็จบ้าง ต้องขับเคลื่อนต่ออย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล’

ชวนอ่านงานวิจัย “ประเมินผลยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ (คนไร้บ้าน ผู้ป่วยข้างถนน)” โดย ผศ. วีรบูรณ์ วิสารทสกุล วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยุทธศาสตร์ดังกล่าว เกิดขึ้นด้วยการริเริ่มโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไร้บ้าน รวมถึงสนับสนุนกระบวนที่มีเป้าหมายเเละทิศทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านเเละผู้ป่วยข้างถนนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปัจจุบันคนไร้บ้านในประเทศไทยเป็นกลุ่มคนที่หลุดจากกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพทุกมิติ เข้าไม่ถึงบริการทางสุขภาพของรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้านที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีมากถึงร้อยละ 25 ของประชากรคนไร้บ้านทั้งหมด เพื่อช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้สำเร็จเเละเเก้ไขปัญหาได้จริง งานวิจัยของ ผศ. วีรบูรณ์  จึงมีเป้าหมายสำคัญ คือ การประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ.2558-2560 และ ให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนายุทธศาสตร์และการดำเนินงานในระยะต่อไป โดยมีโครงการที่เป็นเป้าหมายในการประเมินผลจำนวน 11 โครงการ จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน  ได้เเก่ เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน เป้าหมายที่ 3 สุขภาพเเละความเป็นอยู่ที่ดี เเละเป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ ผศ.วีรบูรณ์ ใช้วิธีการประเมินผลผ่านการศึกษาเอกสารรายงานความก้าวหน้าของโครงการและการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ กลุ่มที่ทำงานในระดับแผนงานหรือกลไกการขับเคลื่อนการทำงาน กลุ่มผู้จัดการหรือผู้รับผิดชอบโครงการ

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มีอะไรสำเร็จบ้าง ต้องขับเคลื่อนต่ออย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล’ Read More »

Scroll to Top