Localizing x Health

TU SDG Seminars | งานวิจัยจะหนุนเสริมระบบสุขภาพไทยให้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นได้อย่างไร – ชวนหาคำตอบจากบทสรุปการสัมมนาการวิจัยด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของคนทุกช่วงวัย

ชวนอ่านบทสรุปการสัมมนาการวิจัยด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของคนทุกช่วงวัย หัวข้อ “ก้าวต่อไปของการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ” โดย รศ. ดร.ธัชเฉลิม สุทธิพงษ์ประชา วิทยาลัยสหวิทยาการ และหัวข้อ “โครงการประเมินผลลัพธ์และยกระดับการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น “กองทุน” ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)” โดย ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้เวทีสัมมนาการวิจัยด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ผ่านระบบ Zoom Meeting ด้วยประเด็นที่กล่าวถึงการให้ความสำคัญกับการทำงานเชิงประสานและกระจายอำนาจแก่สาธารณสุขในท้องถิ่น งานสัมมนาทั้ง 2 หัวข้อข้างต้นจึงมีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2 เป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายที่ 3 สุขภาพเเละความเป็นอยู่ที่ดี เเละเป้าหมายที่ 16 สังคมสงบสุข ยุติธรรม เเละสถาบันเข้มเเข็ง 01 – บทสรุปการสัมมนาหัวข้อ “ก้าวต่อไปของการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ” การสัมมนาหัวข้อ “ก้าวต่อไปของการกระจายอำนาจด้านสุขภาพ” มีประเด็นสำคัญที่ได้จากการนำเสนอของ รศ. ดร.ธัชเฉลิม ดังนี้ ขณะที่ประเด็นสำคัญจากการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ร่วมสัมมนากับนักวิจัยแนวหน้า รศ. […]

TU SDG Seminars | งานวิจัยจะหนุนเสริมระบบสุขภาพไทยให้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นได้อย่างไร – ชวนหาคำตอบจากบทสรุปการสัมมนาการวิจัยด้านสุขภาพและสุขภาวะที่ดีของคนทุกช่วงวัย Read More »

ชวนสำรวจแหล่งกำเนิดและแนวทางลดฝุ่นละอองในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี จากงานวิจัยของ ‘ผศ.ดร.ธงชัย ขนาบแก้ว’

ชวนอ่านงานวิจัย “โครงการศึกษาเพื่อหาแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ตำบลหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี และพื้นที่โดยรอบเขตควบคุมมลพิษในรัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตร” โดย ผศ.ดร.ธงชัย ขนาบแก้ว คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC)  ปัญหามลพิษทางอากาศโดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก ได้แก่ PM10 และ PM2.5 เป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ซึ่งส่งผลกระทบตรงต่อสุขภาพของประชาชนและเป็นปัญหาที่สะสมต่อเนื่องมายาวนาน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมควบคุมมลพิษ ได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศถาวรในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน (24t) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี เพื่อเฝ้าระวังและติดตามปริมาณความเข้มข้นของฝุ่นละออง รวมถึงมลพิษทางอากาศชนิดอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดทำมาตรการร่วมกับหน่วยงานและสถานประกอบการในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังคงพบว่าสถานการณ์จำนวนวันที่ฝุ่นละออง โดยเฉพาะ PM10 มีค่าสูงเกินค่ามาตรฐานยังคงเกิดขึ้นติดต่อกัน โดยเฉพาะช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน – เมษายน ของทุกปี จากข้อมูลการศึกษาของพื้นที่ที่ผ่านมาพบว่า แหล่งกำเนิดฝุ่นละอองจากภาคอุตสาหกรรมและการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองจากกิจกรรมของของสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการทำเหมืองแร่และเหมืองหิน รวมถึงการคมนาคมขนส่ง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระดับความเข้มข้นที่ตรวจวัดได้มีค่าสูง การจัดการและควบคุมการปล่อยมลพิษ PM10 และ PM2.5 จากแหล่งกำเนิดเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพิจารณาดำเนินการเพื่อลดระดับความเข้มข้นของฝุ่นละอองลงมา และพัฒนาแนวทางและมาตรการเพื่อควบคุมและลดการปล่อย PM10

ชวนสำรวจแหล่งกำเนิดและแนวทางลดฝุ่นละอองในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษ ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี จากงานวิจัยของ ‘ผศ.ดร.ธงชัย ขนาบแก้ว’ Read More »

สำรวจปัจจัยที่กลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นใช้เลือก ‘การท่องเที่ยวพร้อมสิทธิฉีดวัคซีน’ ผ่านงานวิจัยที่เน้นเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถาม

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศหยุดชะงักด้วยมาตรการปิดพรมแดนประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงลดน้อยลง ดังจะเห็นได้ว่าในปี 2563 โรงแรมในญี่ปุ่นล้มละลายเพิ่มขึ้นกว่า 57% ขณะที่โรงแรมในไทยถูกคาดการณ์ว่าปิดกิจการภายในสิ้นปี 2564 ไปกว่า 47% อย่างไรก็ดีมีความพยายามมองหาทางเลือกในการท่องเที่ยวแนวใหม่เพื่อโอบอุ้มและกระตุ้นกิจการการท่องเที่ยวไม่ให้ถดถอยมากจนเกินไป และหนึ่งในแนวทางที่ได้รับความสนใจไม่น้อยนั่นคือ “vaccine tourism” หรือ “การท่องเที่ยวพร้อมสิทธิฉีดวัคซีน” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศปลายทางสามารถฉีดวัคซีนได้ฟรี เนื่องจากบางประเทศมีวัคซีนเกินความต้องการใช้จึงนำวัคซีนที่เหลือมาเปลี่ยนเป็นจุดดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างครอบคลุมหรือได้รับวัคซีนชนิดที่ไม่ต้องการ โดยปัจจุบันการท่องเที่ยวแนวนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย และคิวบา กระนั้น เมื่อสำรวจงานวิจัยและเอกสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ผ่านระบบ Scopus พบว่ามีงานวิจัยเพียง 28 งานวิจัยเท่านั้น และเมื่อจำกัดการค้นหาระบุเอกสารที่คำว่า “vaccine tourism” เป็นคำหลัก พบว่ามีงานวิจัยเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น ได้แก่ งานวิจัย “Decoding the global trend of “vaccine tourism” through public sentiments and emotions:

สำรวจปัจจัยที่กลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นใช้เลือก ‘การท่องเที่ยวพร้อมสิทธิฉีดวัคซีน’ ผ่านงานวิจัยที่เน้นเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถาม Read More »

สำรวจความเสี่ยงไข้เลือดออกในภาคกลางของไทย พร้อมค้นหาคำตอบความเชื่อมโยงกับ Climate Change ผ่านงานวิจัยเชิงพรรณนา 

โรคไข้เลือดออกเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์อย่างมาก เนื่องจากส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพของผู้ป่วยและระบบสุขภาพของประเทศ ซึ่งปัจจุบันพบว่าโรคไข้เลือดออกแพร่กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรายงานว่าพบผู้ป่วยไข้เลือดออกประมาณ 2.9 ล้านราย และเสียชีวิต 5,906 ต่อปี สถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้เกิดภาระทางการเงินของประเทศต่าง ๆ กว่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งเป็นการซ้ำเติมภาวะทางการเงินที่ค่อนข้างย่ำแย่อยู่เดิมแล้ว อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนเพียงภาพรวมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไม่ได้ศึกษาอย่างลงรายละเอียดเชิงพื้นที่ และเมื่อพิจารณางานวิจัยอื่น ๆ ที่ศึกษาเรื่องเดียวกันนี้ก็พบว่ายังไม่มีงานวิจัยใดที่ศึกษาการอุบัติของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย ระหว่างปี 2543 – 2554 อย่างชัดเจน เพื่อศึกษาและเติมเต็มช่องทางประเด็นดังกล่าว Uma Langkulsen และ Nigel James คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ Kamol Promsakha Na Sakolnakhon กรมอุตุนิยมวิทยา จึงได้ดำเนินงานวิจัย “Climate Change and Dengue Risk in Central Region of Thailand”

สำรวจความเสี่ยงไข้เลือดออกในภาคกลางของไทย พร้อมค้นหาคำตอบความเชื่อมโยงกับ Climate Change ผ่านงานวิจัยเชิงพรรณนา  Read More »

พัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างไรให้สำเร็จ ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. รณรงค์ จันใด’

ชวนอ่านงานวิจัย “การสังเคราะห์กลไกและรูปแบบพื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชนเพื่อสังคมผู้สูงอายุ” โดย ผศ. รณรงค์ จันใด คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานวิจัยดังกล่าวตั้งต้นขึ้นจากสถานการณ์ผู้สูงอายุของไทยในปัจจุบันที่กำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย ปี 2553-2583 โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่า ในปี 2583 ประเทศไทยจะพบผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สูงถึง 20.5 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของประชากรไทยทั้งหมด สถานการณ์เช่นนี้ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง และที่สำคัญผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพและมีแนวโน้มต้องอาศัยอยู่คนเดียวสูงขึ้น  เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงพัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” (Community Laboratory) ขึ้นทดลองในพื้นที่ตำบลต้นแบบบูรณาการด้านส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัยและอนามัย สิ่งแวดล้อม จำนวน 12 พื้นที่ ได้แก่ ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา, ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย, ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์, ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา,

พัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างไรให้สำเร็จ ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. รณรงค์ จันใด’ Read More »

‘ประชากรเพิ่มขึ้น การใช้ที่ดินจะเปลี่ยนไหม และอนามัยสิ่งแวดล้อมจะเสื่อมโทรมหรือไม่’ โจทย์ท้าทายของการพัฒนาเมืองยั่งยืนในอุษาคเนย์และบังกลาเทศ

ปัจจุบันเขตเมืองในประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับลักษณะการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งยังกระทบต่ออนามัยของสิ่งแวดล้อม เนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลให้เกิดการใช้ที่ดินอย่างไม่เหมาะสมและขาดการวางแผน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เมืองมีการยื้อแย่งที่ดินทางการเกษตร พื้นที่ป่าไม้ และพื้นที่ชุ่มน้ำมาใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเมือง ส่งผลให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ทางธรรมชาติ ทำให้บริการทางระบบนิเวศ (ecosystem  services) เกิดความเสื่อมโทรมและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม (environmental  sustain-ability)  ถดถอย ปัญหาข้างต้น กลายเป็นประเด็นสำคัญที่เมืองต่าง ๆ ในประเทศทั่วโลกต้องเร่งศึกษาถึงสภาพปัญหาและค้นหาแนวทางจัดการที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับงานวิจัย “Sustainable urbanization in Southeast Asia and beyond: Challenges of population growth, land use change, and environmental health” โดย Md. Arfanuzzaman องค์กรอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ประจำประเทศบังกลาเทศ และ Bharat Dahiya วิทยาลัยสหวิทยาการ

‘ประชากรเพิ่มขึ้น การใช้ที่ดินจะเปลี่ยนไหม และอนามัยสิ่งแวดล้อมจะเสื่อมโทรมหรือไม่’ โจทย์ท้าทายของการพัฒนาเมืองยั่งยืนในอุษาคเนย์และบังกลาเทศ Read More »

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มีอะไรสำเร็จบ้าง ต้องขับเคลื่อนต่ออย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล’

ชวนอ่านงานวิจัย “ประเมินผลยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ (คนไร้บ้าน ผู้ป่วยข้างถนน)” โดย ผศ. วีรบูรณ์ วิสารทสกุล วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยุทธศาสตร์ดังกล่าว เกิดขึ้นด้วยการริเริ่มโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไร้บ้าน รวมถึงสนับสนุนกระบวนที่มีเป้าหมายเเละทิศทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านเเละผู้ป่วยข้างถนนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปัจจุบันคนไร้บ้านในประเทศไทยเป็นกลุ่มคนที่หลุดจากกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพทุกมิติ เข้าไม่ถึงบริการทางสุขภาพของรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้านที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีมากถึงร้อยละ 25 ของประชากรคนไร้บ้านทั้งหมด เพื่อช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้สำเร็จเเละเเก้ไขปัญหาได้จริง งานวิจัยของ ผศ. วีรบูรณ์  จึงมีเป้าหมายสำคัญ คือ การประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ.2558-2560 และ ให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนายุทธศาสตร์และการดำเนินงานในระยะต่อไป โดยมีโครงการที่เป็นเป้าหมายในการประเมินผลจำนวน 11 โครงการ จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน  ได้เเก่ เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน เป้าหมายที่ 3 สุขภาพเเละความเป็นอยู่ที่ดี เเละเป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ ผศ.วีรบูรณ์ ใช้วิธีการประเมินผลผ่านการศึกษาเอกสารรายงานความก้าวหน้าของโครงการและการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ กลุ่มที่ทำงานในระดับแผนงานหรือกลไกการขับเคลื่อนการทำงาน กลุ่มผู้จัดการหรือผู้รับผิดชอบโครงการ

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มีอะไรสำเร็จบ้าง ต้องขับเคลื่อนต่ออย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล’ Read More »

Scroll to Top