Research Recommends

ข่าวสารแนะนำงานวิจัยเกี่ยวกับ SDGs ในฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างไรให้สำเร็จ ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. รณรงค์ จันใด’

ชวนอ่านงานวิจัย “การสังเคราะห์กลไกและรูปแบบพื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชนเพื่อสังคมผู้สูงอายุ” โดย ผศ. รณรงค์ จันใด คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานวิจัยดังกล่าวตั้งต้นขึ้นจากสถานการณ์ผู้สูงอายุของไทยในปัจจุบันที่กำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการคาดประมาณประชากรของประเทศไทย ปี 2553-2583 โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่า ในปี 2583 ประเทศไทยจะพบผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สูงถึง 20.5 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของประชากรไทยทั้งหมด สถานการณ์เช่นนี้ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ทำให้จำนวนประชากรวัยแรงงานลดลง และที่สำคัญผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพและมีแนวโน้มต้องอาศัยอยู่คนเดียวสูงขึ้น  เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงพัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” (Community Laboratory) ขึ้นทดลองในพื้นที่ตำบลต้นแบบบูรณาการด้านส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัยและอนามัย สิ่งแวดล้อม จำนวน 12 พื้นที่ ได้แก่ ต.ห้วยข้าวก่ำ อ.จุน จ.พะเยา, ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย, ต.ท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์, ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา, […]

พัฒนา “พื้นที่ห้องปฏิบัติการชุมชน” เพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างไรให้สำเร็จ ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. รณรงค์ จันใด’ Read More »

นวัตกรรมการดูแลคนพิการช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีสิ่งใดที่น่าสนใจบ้าง? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.รณรงค์ จันใด’

ชวนอ่านงานวิจัย “บริการทางวิชาการศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้ และนวัตกรรมการดูแลคนพิการในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” โดย ผศ.รณรงค์ จันใด คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินงานผ่านสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลกระทบให้ประชาชนจำนวนมากต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนพิการ ที่มีข้อจำกัดในการทำกิจกรรม ทำให้ไม่สามารถป้องกันตนเองจากโรคได้เทียบเท่าคนทั่วไป เช่น คนพิการทางสายตาที่ต้องสัมผัสพื้นผิวมากกว่าปกติ คนพิการทางการเคลื่อนไหวที่ไม่สามารถใส่หน้ากากอนามัยหรือล้างมือด้วยตนเอง คนพิการทางจิต/สติปัญญา/ออทิสติก ที่ไม่สามารถเข้าใจมาตรการในการป้องกันโรคได้เท่าคนทั่วไป และหากคนพิการเจ็บป่วยก็อาจจะต้องใช้ทรัพยากรในการดูแลมากกว่า รวมถึงอาจมีอาการป่วยหนักกว่าคนทั่วไปเนื่องจากมีโรคร่วมทางกายมากกว่า งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้สำหรับการดูแลคนพิการในแต่ละประเภทความพิการ และสังเคราะห์รูปแบบและแนวทางการพัฒนานวัตกรรมการดูแลคนพิการในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน เป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม เเละอุตสาหกรรม และเป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ  ซึ่งงานวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึกประเด็นกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง และการถอดบทเรียนและองค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมการดูแลคนพิการ กับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน

นวัตกรรมการดูแลคนพิการช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีสิ่งใดที่น่าสนใจบ้าง? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.รณรงค์ จันใด’ Read More »

ขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมสำรวจว่าประเทศไทยมีการนำนโยบายไปปฏิบัติอย่างไร ชวนค้นหาคำตอบงานวิจัยของ ‘ดร. อำพา แก้วกำกง’

ชวนอ่านงานวิจัย “การขับเคลื่อนนโยบายความร่วมมือด้านการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน : กรณีศึกษาโครงการโรงเรียนคู่พัฒนาไทย – อินโดนีเซีย” โดย ดร. อำพา แก้วกำกง สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา สนับสนุนการเผยแพร่โดยสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ งานวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการนำนโยบายไปปฏิบัติในโครงการโรงเรียนคู่พัฒนาไทย-อินโดนีเซียภายใต้นโยบายการขับเคลื่อนการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียนของไทย ผ่านการใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยได้มีการแบ่งการศึกษาเป็น 2 รูปแบบ คือ 1) การสำรวจด้วยแบบสอบถาม และ 2) การสัมภาษณ์เชิงลึกร่วมกับการศึกษาเยี่ยมชมการปฏิบัติของโรงเรียนและสังเกตการณ์และการวิเคราะห์เนื้อหานโยบายจากเอกสาร ร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติโดยเฉพาะระดับส่วนกลาง และโรงเรียน ที่มาของงานวิจัย เกิดจากข้อตกลงการเป็นประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 (ASEAN Community 2015) ประเทศไทย ได้มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนอย่างจริงจัง และเพื่อให้สอดรับกับแนวนโยบายชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จึงมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปฏิบัติการขับเคลื่อนโรงเรียนสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างโอกาสการศึกษา พร้อมสร้างความตระหนักการเป็นประชาคมอาเซียน ผ่านการใช้การศึกษาเป็นกลไก ซึ่งตามแผนงานของไทย ได้มีการนำแนวทางการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียนที่ยั่งยืนเข้าไปผสานแนวคิดร่วมกับหลักสูตรสถานศึกษา เป็นการทำงานตามปกติ ขณะเดียวกัน ก็ได้ขับเคลื่อนเตรียมการให้ผู้เรียนมีทักษะ เจตคติ ค่านิยม และความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้สามารถอยู่ในประชาคมอาเซียนได้อย่างดี

ขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน พร้อมสำรวจว่าประเทศไทยมีการนำนโยบายไปปฏิบัติอย่างไร ชวนค้นหาคำตอบงานวิจัยของ ‘ดร. อำพา แก้วกำกง’ Read More »

การขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมโดยเด็กและเยาวชน ทำอย่างไรเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘รศ.ชานนท์ โกมลมาลย์’

ชวนอ่านงานวิจัย “โครงการการศึกษาและพัฒนานวัตกรรมทางสังคมเพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะ โดยการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน : กรณีศึกษานำร่องสภาเด็กและเยาวชนระดับจังหวัด” โดย รศ.ชานนท์ โกมลมาลย์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 18 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 ถึง มีนาคม 2561 ในประเทศไทยกระแสความสนใจและการศึกษาวิจัยนวัตกรรมทางสังคมเกิดขึ้นเป็นวงกว้างมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา นวัตกรรมทางสังคมเปรียบเสมือนแกนหลักในการพัฒนาประเทศโดยมีนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นตัวเสริม อาจกล่าวได้ว่านวัตกรรมทางสังคมนั้นเป็นการพัฒนาด้วยการใช้สังคมและการอยู่ร่วมกันเป็นตัวตั้งทำให้เกิดภาวะสมดุลสุขภาวะอย่างมีพลวัตได้ จากรายงานของยูนิเซฟ (UNICEF) ว่าด้วยอนุสัญญาสิทธิเด็ก ระบุว่า ควรดำเนินการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เด็กกว่าล้านคนได้รับประโยชน์ ด้วยความร่วมมือระหว่างองค์กรทั่วโลกจะช่วยให้ทุกภาคส่วนใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเพื่อเด็กทุกคน ฉะนั้นอาจสรุปได้ว่าเด็กและเยาวชนจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างนวัตกรรมทางสังคม วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของสภาเด็กและเยาวชน พัฒนาศักยภาพเพื่อให้สามารถเป็นตัวแทนเด็กและเยาวชนในการแสดงบทบาทที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย พัฒนาองค์ความรู้ด้านการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมในระดับพื้นที่และจังหวัด และสร้างเครือข่ายแกนนำที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งงานวิจัยฉบับนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้แก่ เป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม และเป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ การดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก

การขับเคลื่อนนวัตกรรมทางสังคมโดยเด็กและเยาวชน ทำอย่างไรเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘รศ.ชานนท์ โกมลมาลย์’ Read More »

ร่วมขับเคลื่อนนโยบายระบบการดูเเลสุขภาพจิต เมื่อผู้ป่วยจิตเวช (คือ) คนไร้บ้าน อะไรคือปัญหาและอุปสรรค ชวนค้นหาคำตอบงานวิจัยของ ‘ผศ. ดร.นิฤมน รัตนะรัต’

ชวนอ่านงานวิจัย “ขับเคลื่อนเชิงนโยบายระบบการดูเเลให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน” โดย ผศ. ดร.นิฤมน รัตนะรัต คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนับสนุนการเผยแพร่โดยสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) งานวิจัยดังกล่าว เป็นโครงการวิจัยระยะที่ 2 ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  ซึ่งการวิจัยนี้เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ มุ่งเน้นการผลักดันนโยบายระบบการดูแลให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครไปสู่การปฏิบัติจริง เนื่องจากการสำรวจข้อมูลของคนไร้บ้านในเขตกรุงเทพมหานครและพื้นที่เกี่ยวเนื่อง ในปี 2559 ของ สสส. พบว่า คนไร้บ้าน มากกว่าร้อยละ 50 มีปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ มีที่มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ร้อยละ 28 ไม่มีบัตรประชาชน และอีกร้อยละ 22 มีปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพ ทำให้ไม่ได้รับการดูแลให้บริการด้านสุขภาพตามที่พึงจะได้รับ ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายระบบการดูเเลให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมยิ่งขึ้น จึงต้องอาศัยการสนับสนุนเครือข่ายภาคีความร่วมมือ จากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยนำนโยบายระบบการดูแลมาขับเคลื่อนในการช่วยเหลือ บำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมผลักดันให้มีการพัฒนา เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในระดับประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป โดยกลุ่มเป้าหมายหลักงานวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  ซึ่งงานวิจัยฉบับนี้ สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ร่วมขับเคลื่อนนโยบายระบบการดูเเลสุขภาพจิต เมื่อผู้ป่วยจิตเวช (คือ) คนไร้บ้าน อะไรคือปัญหาและอุปสรรค ชวนค้นหาคำตอบงานวิจัยของ ‘ผศ. ดร.นิฤมน รัตนะรัต’ Read More »

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มีอะไรสำเร็จบ้าง ต้องขับเคลื่อนต่ออย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล’

ชวนอ่านงานวิจัย “ประเมินผลยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ (คนไร้บ้าน ผู้ป่วยข้างถนน)” โดย ผศ. วีรบูรณ์ วิสารทสกุล วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยุทธศาสตร์ดังกล่าว เกิดขึ้นด้วยการริเริ่มโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไร้บ้าน รวมถึงสนับสนุนกระบวนที่มีเป้าหมายเเละทิศทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านเเละผู้ป่วยข้างถนนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากปัจจุบันคนไร้บ้านในประเทศไทยเป็นกลุ่มคนที่หลุดจากกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพทุกมิติ เข้าไม่ถึงบริการทางสุขภาพของรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้านที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีมากถึงร้อยละ 25 ของประชากรคนไร้บ้านทั้งหมด เพื่อช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้สำเร็จเเละเเก้ไขปัญหาได้จริง งานวิจัยของ ผศ. วีรบูรณ์  จึงมีเป้าหมายสำคัญ คือ การประเมินผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ.2558-2560 และ ให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนายุทธศาสตร์และการดำเนินงานในระยะต่อไป โดยมีโครงการที่เป็นเป้าหมายในการประเมินผลจำนวน 11 โครงการ จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน  ได้เเก่ เป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน เป้าหมายที่ 3 สุขภาพเเละความเป็นอยู่ที่ดี เเละเป้าหมายที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ ผศ.วีรบูรณ์ ใช้วิธีการประเมินผลผ่านการศึกษาเอกสารรายงานความก้าวหน้าของโครงการและการสัมภาษณ์กลุ่มผู้ให้ข้อมูลต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ กลุ่มที่ทำงานในระดับแผนงานหรือกลไกการขับเคลื่อนการทำงาน กลุ่มผู้จัดการหรือผู้รับผิดชอบโครงการ

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพผู้ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ มีอะไรสำเร็จบ้าง ต้องขับเคลื่อนต่ออย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ.วีรบูรณ์ วิสารทสกุล’ Read More »

Scroll to Top