SDG9

แนวทางการพัฒนาเพื่อส่งเสริมการใช้ ‘ยานยนต์ไฟฟ้า’ ของประเทศไทยเป็นอย่างไร  ชวนค้นหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. ดร.ภูรี สิรสุนทร และคณะ’

ชวนอ่านงานวิจัย “ศึกษาและพัฒนาแนวทางในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)” โดย ผศ.ดร.ภูรี สิรสุนทร คณะเศรษฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ดำเนินงานผ่านสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC)  ‘ยานยนต์’ และ ‘พลังงาน’ ในภาคขนส่งเป็นสินค้าประกอบกัน นโยบายของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นนโยบายอุตสาหกรรม นโยบายคมนาคม นโยบายพลังงานในภาคขนส่ง โดยเฉพาะโครงสร้างราคาพลังงานส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเลือกใช้ยานยนต์และการใช้พลังงานในภาคขนส่งทางถนนและการกำหนดทิศทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนรวมทั้งภาคขนส่งและภาคพลังงานอีกด้วย  รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน ได้ตระหนักถึงสถานการณ์การใช้พลังงานในภาคขนส่งของประเทศไทย จึงได้วางแผนอนุรักษ์พลังงานมาอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมให้เกิดการประหยัดการใช้พลังงาน ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่ส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงานในภาคขนส่ง คือ การนำ ‘ยานยนต์ไฟฟ้า’ (electric vehicle : EV) มาใช้แทนยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้เชื่อมต่อและประกอบกันกับการขนส่งในระบบราง จะช่วยลดการเกิดมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย เพื่อช่วยเพิ่มบทบาทของระบบรางในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ยานยนต์และพลังงานให้เพิ่มมากขึ้น ผศ. ดร.ภูรี และคณะ ได้ดำเนินการวิจัยงานวิจัยข้างต้น ภายใต้เงื่อนไขอย่างเหมาะสมในการเพิ่มโอกาสในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนต่อไปได้ในอนาคต ผ่านการเก็บข้อมูลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 4 เป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายที่ 3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี เป้าหมายที่ 7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ เป้าหมายที่ 9 อุตสาหกรรม นวัตกรรม […]

แนวทางการพัฒนาเพื่อส่งเสริมการใช้ ‘ยานยนต์ไฟฟ้า’ ของประเทศไทยเป็นอย่างไร  ชวนค้นหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. ดร.ภูรี สิรสุนทร และคณะ’ Read More »

สำรวจบทบาทของศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมและศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา ในการร่วมมือและพัฒนากลยุทธ์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย

กลยุทธ์บ่มเพาะธุรกิจเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยลดอัตราความล้มเหลวของธุรกิจขนาดย่อมและช่วยสนับสนุนธุรกิจที่เติบโต ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับประเทศไทยเริ่มขยับขับเคลื่อนการส่งเสริมการพัฒนาผู้ประกอบการและสนับสนุนการสร้างธุรกิจใหม่ต่อเนื่องมาตั้งแต่หลังจากวิกฤติทางการเงินในเอเชีย ปี 2540 หรือ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือการเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่มีรายได้ปานกลางระดับล่างไปสู่เศรษฐกิจที่มีรายได้ปานกลางระดับบน ทั้งนี้ หนึ่งในกลยุทธ์ที่น่าสนใจของการบ่มเพาะธุรกิจ นั่นคือการใช้ศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมและศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาเป็นหัวเรือหลักในการอบรมและเผยแพร่ความรู้ และประสานงานระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะรัฐบาล มหาวิทยาลัย และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือไตรภาคี (triple helix) ที่จะสร้างพลังในการผลักดันให้ผู้ประกอบการมีทักษะความรู้ที่ครอบคลุม เข้าถึงเครื่องมือได้สะดวก และสามารถเข้าสู่ตลาดธุรกิจ นวัตกรรม และเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และพัฒนาแนวทางดำเนินการของศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมและศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและสามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้ ศ. ดร.จารุณี วงศ์ลิมปิยะรัตน์ วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้ดำเนินงานวิจัย “The innovation incubator, university business incubator and technology transfer strategy: The case of Thailand” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์การบ่มเพาะธุรกิจและทบทวนบทบาทของศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรม (innovation incubator) และศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (university business incubator: UBI) ในการสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการในประเทศไทย  ด้วยประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและร่วมมือพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ นวัตกรรม และเทคโนโลยี

สำรวจบทบาทของศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมและศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา ในการร่วมมือและพัฒนากลยุทธ์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย Read More »

เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ภาคอุตสาหกรรมจะพัฒนาระบบ ‘Big Data’ ได้อย่างไร ชวนค้นหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. ดร.พาณุวงศ์ คัมภิรารักษ์ และคณะ’

ชวนอ่านงานวิจัย “พัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม” โดย ผศ. ดร.พาณุวงศ์ คัมภิรารักษ์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ดำเนินงานผ่านสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC)   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานที่เป็นเสมือนคลังสมอง (Think Tank) ของกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จึงมีภารกิจสำคัญในการจัดทำและผลักดันข้อเสนอแนะ นโยบาย แผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทำให้การกำหนดนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมจำเป็นต้องรู้เท่าทันกับสถานการณ์หรือปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น และด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ต่าง ๆ สามารถทำได้แบบ Real Time และเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายใหญ่มากขึ้น กลายเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ดังนั้น กระบวนการติดตามสถานการณ์อุตสาหกรรมและการจัดทำนโยบายจึงต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทันต่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการเสริมศักยภาพการทำงาน รวมถึงใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีในระบบมาบูรณาการฐานข้อมูลของหน่วยงานภายในของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงนับว่าเป็นงานวิจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 2 เป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายที่ 9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม และเป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผศ. ดร.พาณุวงศ์

เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ภาคอุตสาหกรรมจะพัฒนาระบบ ‘Big Data’ ได้อย่างไร ชวนค้นหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘ผศ. ดร.พาณุวงศ์ คัมภิรารักษ์ และคณะ’ Read More »

การผลิตไฟฟ้าจากขยะในประเทศไทย มีเทคโนโลยีและแหล่งของเสียใดบ้างที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างไร

ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยปี พ.ศ. 2556 ในทุกภาคส่วนอยู่ที่ประมาณ 164,341 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) แบ่งเป็น ภาคที่อยู่อาศัย 37,657 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ภาคบริการทั่วไปขนาดเล็ก 18,374 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ภาคธุรกิจ 30,413 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ภาคอุตสาหกรรม 72,536 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 149 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ภาคเกษตรกรรม 354 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง การใช้งานอื่น ๆ 2,479 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง และการให้บริการโดยไม่คิดเงิน 2,379 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดมาจากก๊าซธรรมชาติ 412,701.72 ล้านลูกบาศก์ฟุต น้ำมันเตา 316.82 ล้านลิตร ลิกไนต์ 16.88 ล้านตัน และน้ำมันดีเซล 60.35 ล้านลิตร ความต้องการไฟฟ้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 346,767 กิกกะวัตต์-ชั่วโมง ในปี พ.ศ. 2573 กระทรวงพลังงานได้มีนโยบายพัฒนาพลังงานหมุนเวียน (renewable energy:

การผลิตไฟฟ้าจากขยะในประเทศไทย มีเทคโนโลยีและแหล่งของเสียใดบ้างที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อย่างไร Read More »

สำรวจการนำ ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ มาใช้ ในอุตสาหกรรมเหล็กของไทย พร้อมค้นหาปัจจัยหนุนเสริมและอุปสรรค

ปัจจุบัน โลกได้เผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก ซึ่งหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายอย่าง “เศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy : CE) มีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความยั่งยืน โดยได้ให้ความสำคัญกับการปรับใช้หมุนเวียนทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นที่มาของการศึกษาวิจัยเรื่อง “Circular Economy: Exploratory Study of Steel Industry in Thailand” โดย Vichathorn Piyathanavong สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะ  เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy (CE) เป็นโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ที่ช่วยในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม เพิ่มการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิต พร้อมช่วยคงสภาพมูลค่าของผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ ให้สามารถใช้ได้ในระยะยาว รวมถึงเป็นระบบเศรษฐกิจที่มุ่งลดของเสียและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้ความสำคัญกับการสร้างวัฏจักรหมุนเวียนของวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ พลังงาน และการจัดการของเสียที่เหลือทิ้ง นอกจากนี้ เศรษฐกิจหมุนเวียน ยังมีศักยภาพในการช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนไปพร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ช่วยรักษาทรัพยากรในกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ  เมื่อผลิตภัณฑ์หมดอายุการใช้งาน (End-of-Life : EoL) ก็สามารถนำวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นการช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แตกต่างจากเศรษฐกิจแบบเส้นตรง

สำรวจการนำ ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ มาใช้ ในอุตสาหกรรมเหล็กของไทย พร้อมค้นหาปัจจัยหนุนเสริมและอุปสรรค Read More »

LAW-U แชทบอทให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย แก่เหยื่อและผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศ ผ่านการประมวลผลภาษาธรรมชาติด้วยปัญญาประดิษฐ์

ความรุนแรงทางเพศ (sexual violence) หมายถึง การกระทำทางเพศหรือความพยายามใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งการกระทำทางเพศต่อบุคคล ผ่านใช้ความรุนแรงหรือการบังคับขู่เข็ญ ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำความผิดและเหยื่อจะเป็นแบบใดและในสถานการณ์แวดล้อมใดก็ตาม คำนิยามนี้ยังครอบคลุมถึงการใช้กำลังบังคับ การคุกคามทางเพศ (sexual harassment) และการล่วงละเมิดทางเพศ (sexual assault) ความรุนแรงทางเพศ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนและสังคมทั่วโลก องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) รายงานว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วโลก ในช่วงชีวิตของพวกเธอเคยอยู่ภายใต้ความรุนแรงทางเพศจากคู่รักหรือจากคนที่ไม่ใช่คู่รัก จากการมาตรการปิดเมือง หรือ ล็อกดาวน์ (lockdown) ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ความเสี่ยงเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากครอบครัวต้องรับมือกับความเครียดที่เพิ่มขึ้นและการอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ศูนย์วิกฤตและสายด่วนสำหรับเหยื่อและผู้รอดชีวิต รวมถึงความช่วยเหลือทางกฎหมายถูกลดขนาดลง ทำให้บุคคลเหล่านี้เข้าถึงเครือข่ายการสนับสนุนที่สำคัญได้ยากขึ้น มาตรการควบคุมระหว่างการแพร่ระบาดทำให้การรายงานความรุนแรงทางเพศต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เรื้อรังอยู่แล้วเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การถูกตีตรา ความกลัวที่จะตอบโต้ และบริการที่ไม่เพียงพอสำหรับผู้รอดชีวิต แม้ว่าความรุนแรงทางเพศจะมีแนวโน้มลดลงในทั้งสองเพศ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าแนวโน้มนี้สะท้อนความเป็นจริงอย่างถูกต้องหรือไม่ สำหรับ ผู้รอดชีวิต (survivor)

LAW-U แชทบอทให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย แก่เหยื่อและผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศ ผ่านการประมวลผลภาษาธรรมชาติด้วยปัญญาประดิษฐ์ Read More »

เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นคาร์บอนในเหล็ก การผลิตเหล็กจากกล่องอาหารทดแทนการใช้ถ่านหินได้หรือไม่? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘รศ.ดร.สมยศ คงคารัตน์’

ชวนอ่านงานวิจัย “การใช้ประโยชน์ขยะพอลิเมอร์กล่องบรรจุอาหารที่เกิดขึ้นจากธุรกิจส่งอาหารในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อการผลิตเหล็กกล้าแบบยั่งยืน : การผลิตคาร์บอนกราไฟต์และการประยุกต์ใช้เป็นสารเพิ่มคาร์บอนในเหล็กเหลว” โดย รศ.ดร.สมยศ คงคารัตน์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เผยแพร่ผ่านสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) การดำเนินนโยบายให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจส่งอาหาร (food delivery) เฟื่องฟูและเป็นที่นิยมอย่างมาก ทว่าปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นตามมาคือ ขยะที่เป็นกล่องบรรจุอาหารจำนวนมาก โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่เป็นวัสดุพอลิเมอร์หรือพลาสติกซึ่งย่อยสลายได้ยาก โดยทั่วไปแล้วขยะพอลิเมอร์ที่ใช้เป็นกล่องบรรจุอาหารมี 2 ชนิดคือ พอลิโพรไพลีน (polypropylene: PP) ซึ่งอยู่ในรูปของกล่องพลาสติกขาวขุ่น และพอลิสไตรีน (polystyrene: PS) ที่อยู่ในรูปของกล่องพลาสติกใสอ่อน กล่อง/ถาดโฟมสีขาว รวมทั้งช้อนส้อมพลาสติกและฝาแก้วกาแฟร้อนสีขาว เป็นต้น ส่วนใหญ่ใช้วิธีกำจัดขยะโดยการเผาหรือนำไปทิ้งตามพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า คาร์บอนเป็นธาตุที่สำคัญมากในกระบวนการผลิต โดยเป็นทั้งเชื้อเพลิงและเป็นตัวทำปฏิกิริยาระหว่างการถลุงเหล็กในเตาหลอม แหล่งของคาร์บอนที่ใช้ในกระบวนการผลิตคือ ถ่านหิน ถ่านโค้ก ถ่านแอนทราไซต์ กราไฟต์ เป็นต้น แต่ทว่าการใช้ถ่านหินหรือเชื้อเพลิงฟอสซิลเหล่านี้ในกระบวนการผลิต ทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศออกสู่ระบบนิเวศมากตามไปด้วย

เปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นคาร์บอนในเหล็ก การผลิตเหล็กจากกล่องอาหารทดแทนการใช้ถ่านหินได้หรือไม่? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘รศ.ดร.สมยศ คงคารัตน์’ Read More »

เครื่องฝึกเดิน I-Walk สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ฟื้นฟูสมรรถภาพการเดินได้ดีกว่ากายภาพบำบัดทั่วไปอย่างไร

โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตและความบกพร่องต่าง ๆ รวมถึงความสามารถทางการเคลื่อนไหว ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 30% ไม่สามารถเดินได้อย่างอิสระ ระดับความสามารถในการเดินของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองโดยใช้ความเร็วในการเดินเป็นตัววัด แบ่งได้เป็น การเดินในชุมชน (community ambulation) เป็นความสามารถที่จำเป็นและสำคัญสำหรับผู้ป่วยในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ความเร็วในการเดิน (gait speed) เป็นตัวชี้วัดสำคัญของการเดินในชุมชน ความเร็วในการเดินที่ดีบ่งชี้ถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี งานวิจัยก่อนหน้าจำนวนมาก พบว่า ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหวจะเดินได้ช้ากว่าและมีระยะทางในการเดินสั้นกว่าเมื่อเทียบกับคนสุขภาพดี นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะเรื้อรัง (chronic stroke) มากกว่าหรือเท่ากับ 6 เดือน ประมาณ 50% ที่อาศัยอยู่ในชุมชนมีภาวะอ่อนแรงครึ่งซีก (hemiparesis) ไม่ผ่านการทดสอบสมรรถภาพการเดินและสามารถเดินได้ระยะทางเพียงครึ่งเดียวจากที่คาดการณ์ไว้ วิธีการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการเคลื่อนไหวมีมากมาย ตัวอย่างเช่น การฝึกเดินบนพื้นราบ (overground gait training) หรือกายภาพบำบัดทั่วไป (conventional physical therapy) การฝึกเดินขึ้นลงบันได (staircase gait training) และการฝึกเดินโดยใช้อุปกรณ์ช่วย (device-assisted gait training) เป็นต้น

เครื่องฝึกเดิน I-Walk สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ฟื้นฟูสมรรถภาพการเดินได้ดีกว่ากายภาพบำบัดทั่วไปอย่างไร Read More »

ความพยายามลดโลกร้อนของไทยเป็นอย่างไร ส่องแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจก ตามหมุดหมายของ ‘ความตกลงปารีส’

ความตกลงปารีส (Paris Agreement) เกิดจากจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยมีเป้าหมายที่ท้าทาย คือ การรักษาอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส เหนืออุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม และพยายามจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดในการลดก๊าซเรือนกระจก (Nationally Determined Contributions : NDCs) ประเทศไทย ได้ลงนามรับความตกลงปารีส ในปี 2559 และในเวลาต่อมา จึงมีการจัดทำแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี พ.ศ. 2564 โดยกำหนดเป้าหมายว่าภายในปี 2573 (2030) ประเทศไทยจะลดก๊าซเรือนกระจกขั้นต่ำที่ร้อยละ 20 และกำหนดเป้าหมายขั้นสูงที่ร้อยละ 25 จากกรณีปกติ การศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยมีเป้าหมายการรักษาอุณหภูมิโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส เป็นที่มาของงานวิจัย “Thailand’s mid-century greenhouse gas emission pathways to achieve the 2 degrees Celsius target” โดย Achiraya Chaichaloempreecha

ความพยายามลดโลกร้อนของไทยเป็นอย่างไร ส่องแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจก ตามหมุดหมายของ ‘ความตกลงปารีส’ Read More »

การประเมินประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ คืออะไร? นำมาใช้ศึกษากับการยางแห่งประเทศไทยอย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘รศ.ดร.พาญพล พึ่งรัศมี’

ชวนอ่านงานวิจัย “ศึกษาวิจัยพร้อมประเมินประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (eco-efficiency) ของการยางแห่งประเทศไทย ตามแนวทางปฏิบัติที่ดี ISO 14045 ประจําปีงบประมาณ 2563” โดย รศ.ดร.หาญพล พึ่งรัศมี ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทย เผยแพร่ผ่านสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TU-RAC) จากสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลกในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนน้ำ การลดลงของทรัพยากรธรรมชาติ และการทำลายสิ่งแวดล้อม ล้วนมีผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจและการพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้มีการใช้ทรัพยากร วัตถุดิบ และพลังงาน รวมถึงก่อให้เกิดมลภาวะจากการผลิตวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต กระบวนการผลิต การขนส่ง รวมทั้งการปล่อยของเสีย และการกำจัดของเหลือใช้จากกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้จึงเกิดแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ผนวกกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจ พร้อมทั้งดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและการลดการปล่อยมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม หรือหลักการที่เรียกว่า การประเมินประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (eco-efficiency) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการจัดการของภาคอุตสาหกรรมให้มีศักยภาพในการแข่งขันด้านธุรกิจควบคู่กับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การยางแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพารา ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพารา ให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยางในด้านวิชาการ การเงิน การแปรรูป การตลาด และดำเนินการให้ระดับราคายางพารามีเสถียรภาพ โดยมียุทธศาสตร์ของการยางแห่งประเทศไทย ดังนี้ รศ.ดร.หาญพล และการยางแห่งประเทศไทย ต้องการศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยใช้หลักการการประเมินประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ เพื่อให้ครอบคลุมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กันอย่างสมดุล

การประเมินประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจ คืออะไร? นำมาใช้ศึกษากับการยางแห่งประเทศไทยอย่างไร? ชวนหาคำตอบจากงานวิจัยของ ‘รศ.ดร.พาญพล พึ่งรัศมี’ Read More »

Scroll to Top